รายงานจากสำนักข่าว เอพี ในกรุงมอสโคว์ ว่า ทีมชาติ อังกฤษ พลาดจังหวะทำประตูขึ้นนำในช่วงครึ่งเวลาหลังทำให้โอกาสในการผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในฟุตบอลยูโร 2008 เริ่มลดน้อยลงไปเสียแล้วหลังต้องพลาดท่าโดน "หมีขาว" รัสเซีย ตะปบตาย 2-1 คา กรุงมอสโคว์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา 

       "เราจบเกมส์ด้วยความพ่ายแพ้ ทั้งๆที่ 70 นาทีตลอดเกมส์เราเล่นได้ดีอย่างไม่น่าที่จะแพ้, ชัยชนะมันอยู่ในมือเราแท้ๆ แต่เราก็ทำมันหล่นหายไป" สตีฟ แมคราเลน กุนซือทีมชาติ อังกฤษ กล่าว

        เวย์น รูนีย์ พา อังกฤษ ขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 29 จากการผ่านบอลของ ไมเคิล โอเวน คู่หูแดนหน้า, ส่วน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็พลาดโอกาสในการทำประตูให้กับทีมชาติ อังกฤษ หนีห่างออกไปในนาทีที่ 51 หลังจากซัดบอลออกนอกกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ

       "ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชัยชนะมันจะหลุดลอยไปจากพวกเรา, คุณเริ่มต้นด้วยความเชื่อว่าคุณอยู่ไม่ห่างจากจุดนั้นสักเท่าไหร่ ซึ่งที่คุณมีก็แค่เท้า แต่ฟุตบอลมันเป็นเกมส์ที่โหดร้าย, โอกาส และการตัดสินใจ, ความผิดพลาด ทุกอย่างมันสามารถที่จะพลิกเกมส์ได้ตลอดเวลา" เจอร์ราร์ด กล่าวหลังจากจบเกมส์

        โรมัน พาฟลูย์เชนโก้ เป็นผู้กดประตูตีเสมอให้กับทีม รัสเซีย ในนาทีที่ 58 และยังเป็นคนยิงลูกที่จุดโทษในนาทีที่ 69 พารัสเซียขึ้นนำ หลังจากที่ รูนีย์ ทำฟาวส์ คอนสแตนติน ซีร์ยานอฟ ในบริเวณนอกกรอบเขตโทษ แต่ทางผู้ตัดสินกลับชี้ให้เป็นลูกที่จุดโทษ สร้างความมึน งง ให้กับบรรดานักเตะ สตาฟโค้ช และเหล่ากองเชียร์อังกฤษเป็นอย่างมาก

       "มันเสียหายมากสำหรับเรา, ยังไงก็เป็นการทำฟาวส์นอกเขตชัดๆ เพราะ ลายน์แมนเองก็ไม่ได้ให้เป็นลูกฟาวส์ในเขตโทษ" แมคราเลน กล่าวเสริม

        สถานการณ์หลังจากการพ่ายแพ้ทำให้อังกฤษ ต้องลุ้นให้รัสเซียพลาดท่าเสมอ หรือแพ้ในอีกสองนัดที่เหลือ กับ อิสราเอล และ อันโดรา เพราะขณะนี้ รัสเซีย มีคะแนนตามหลัง อังกฤษ อยู่แค่ 2 แต้มและแข่งน้อยกว่า 1 นัด หรือลุ้นให้ โครเอเชีย พลาดท่าเช่นกัน อังกฤษ จะลงฟาดแข้งนัดสุดท้าย กับ โครเอชีย ซึ่งต้องชนะอย่างเดียวเท่านั้น และคาดกันว่า เดวิด เบคแฮม จะสามารถกลับมาลงสนามช่วยทีม ในนัดหน้าในวันที่ 21 พฤศจิกายน อย่างแน่นอน