Sbobet Sbobet888

เจาะลึกขุนพล "ปีศาจแดง" ประจำฤดูกาล 2013-14

Muztong 2013-09-14 13:53:01

A PHP Error was encountered

Severity: Notice

Message: Undefined variable: tag_links

Filename: site/news-detail.php

Line Number: 47

เจาะลึกขุนพล ปีศาจแดง ประจำฤดูกาล 2013-14           หลังจากดราม่าเรื่องตลาดซื้อขายอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดพลพรรคอสูรแดง ภายใต้อำนาจของเดวิด มอยส์ อสูรร้ายหน้าอีทีก็ได้กำเนิดบุตรใหม่เพียงตนเดียวนั่นคือ ปีศาจร้ายหัวแอฟโฟรสัญชาติเบลเยี่ยม นามว่า มารูยาน ชามัคห์ , เห้ย มารูยาน เฟลไลนี่ เขาจะร่วมสร้างความน่าสะพรึงให้กับทัพผีแดงได้ดีแค่ไหน โปรดติดตาม .....

     
          วิเคราะห์ "อสูรแดง" เรียงเบอร์ (งวดนี้ขอให้ถูก) เห้ย ไม่ใช่หวย , เอาเป็นว่าเริ่มเลยละกัน






1. ดาบิด เด เคอา  (ผู้รักษาประตู)

         นี่คือซีซั่นที่ 3 ของนายทวารชาวสแปนิช โดยซีซั่นแรกเขาต้องเผชิญกับฝันร้าย ในการปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษ แต่พอเข้าปีที่สอง เขาสามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอด ด้วยสรีระที่เฟิร์มขึ้น ดูแข็งแกร่งกว่าเดิม ปัญหาลูกกลางอากาศที่เคยเป็นในปีแรก แทบจะหายไปหมด ส่วนในปีนี้ด้วยประสบการณ์ที่เพิมพูนขึ้น จะทำให้เขาเขยิบเข้าใกล้ตำแหน่งนายทวารระดับโลกในอนาคตอันใกล้ และก้าวสู่การเป็นตำนานของสโมสร เฉกเช่น ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล และ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งบททดสอบนั้นรอเขาอยู่ในฤดูกาลนี้




2. ราฟาเอล ดา ซิลวา (แบ็คขวา)

        เมื่อถึงวาระ แกรี่ เนวิลล์ ประกาศรีไทร์ แบ็คดาวโรจน์ชาวบราซิลเลียน ก็สามารถเข้ามาทดแทนในตำแหน่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แม้ในช่วงแรกๆ เขาจะดูพรวดพราดไม่คงเส้นคงวา มุทะลุใจร้อน เพราะเนื่องด้วยความเป็นวัยรุ่น จนเวลาผ่านไป ราฟาเอล สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น นิ่งขึ้น เขาเติมเกมรุกได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ แถมยังทำประตูสวยๆให้กับทีมได้อีกด้วย เขามีทั้งความเร็ว ร่างกายที่ดูหนาขึ้นทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าเก่า เขาทุ่มเทวิ่งสู้ฟัดกัดไม่ปล่อย นี่คือคุณสมบัติของแบ็คที่ดี ขาดอย่างเดียวคือในยามที่อยู่ในสภาวะตึงเครียด เขาต้องหัดควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้ เห็นได้ชัดจากเกมกับเชลซีปลายซีซั่นก่อน ที่เข้าไปหวด ดาวิด ลุยซ์ จนโดนไล่ออกจากสนาม นั่นคือบทเรียนราคาแพงสำหรับเขา และเขาต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับมัน ซึ่งตอนนี้เราได้แต่ภาวนาให้เขาหายเจ็บกลับมาช่วยทีมโดยเร็ววัน
 



3. ปาทริซ เอฟร่า (แบ็คซ้าย)

          รองกัปตันทีมเลือดเฟรนช์รายนี้ มีช่วงนึงที่เขาฟอร์มออกทะเลสุดๆ กลายเป็นบ่อของทีม แต่ซีซั่นที่ผ่านมา ฟอร์มของเขากลับเข้าฝั่งเป็นที่เรียบร้อย ด้วยสไตล์การเติมเกมรุกที่เป็นเอกลักษณ์ เขามักจะลากตัดเข้าใน ทำชิ่งกับปีก จบด้วยการลากเลี้ยงไปจนสุดเส้น ก่อนเปิดให้เพื่อนทำประตู เป็นภาพที่เราเห็นอยู่เป็นประจำ แต่บางครั้งเขามักจะเติมเกมรุกจนเพลิน ทำให้จังหวะโต้กลับของฝั่งตรงข้าม เขาลงไปตั้งรับไม่ทัน ทำให้ทีมเสียประตูอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในซีซั่นก่อนเขาปรับเกมรับได้ดีขึ้นมาก และหวังว่าปีนี้ เขาจะรักษาฟอร์มเก่งเอาไว้ได้ ไม่ออกทะเลเป็นชาวประมงอีกเป็นอันขาด




4. ฟิล โจนส์ (กองหลัง)

        ตัวเขาถือว่าเป็น นิว จอห์น โอเช ที่เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ เล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ , แบ็คขวา และมิดฟิลด์ตัวรับ แต่โจนส์ดูจะครบเครื่องกว่า ด้วยร่างกายที่บึกบึนสูงใหญ่และมีความเร็วเป็นจุดเสริม เขาทุ่มเทสุดตัวในทุกๆเกม แต่ความทุ่มเทที่มากเกิน มันทำให้เขาต้องบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดเขาก็เจ็บจากเกมแดงเดือด ซึ่งเขาต้องเรียนรู้จากจุดนี้ หากเขาทำได้ และฟื้นจากอาการบาดเจ็บกลับมาเมื่อไร เขาต้องมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับยูไนเต็ดอย่างแน่นอน




5. ริโอ เฟอร์ดินานด์ (กองหลัง)

        กองหลังเจ้าพ่อทวิตเตอร์ อยู่โยงกับทีมมาเป็นเวลานานย่างเข้าปีที่ 11 แล้ว และยังคงเป็นกองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในเกาะอังกฤษ หลังจากสลัดทิ้งอาการบาดเจ็บหลัง ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน โดยซีซั่นก่อนเขาลงสนามให้กับทีมสม่ำเสมอกว่าที่ผ่านมา และด้วยวัย 34 ปี เขาดูสุขุมเยือกเย็น อ่านเกมขาด เป็นหัวใจในแนวรับอีกคนหนึ่งของทีม เขามีคาแร็คเตอร์ความเป็นผู้นำสูง สามารถกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราหวังว่าปีนี้ เขาจะรักษามาตรฐานที่ว่ามาทั้งหมดนี้ได้ และช่วยประคับประคองรุ่นน้องในทีมไปสู่ฝั่งฝัน ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 21 ให้จงได้




6. จอห์นนี่ อีแวนส์ (กองหลัง)

        ปราการหลังชาวไอร์แลนด์เหนือ ถือเป็นผลผลิตทีมเยาวชนของปีศาจแดง ช่วงแรกๆที่เขาก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เขาเจอแรงกดดันมากมาย ทำให้ไม่สามารถแสดงศักยภาพที่มีออกมาได้ เขาเล่นผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง จนโดนวิจารณ์อย่างหนัก แต่มันเป็นเหมือนแรงกระตุ้น จนทำให้เขาเค้นฟอร์มเก่งออกมาจนได้ เพราะเขาได้รับโอกาสลงเล่นมากขึ้นในช่วงที่เนมานย่า วิดิชหรือริโอ เฟอร์ดินานด์ บาดเจ็บ จนพักหลังๆเขาสามารถยึดตัวจริงถาวรได้ แต่เขาก็มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้งเมื่อซีซั่นก่อน ซึ่งถ้าฟิตสมบูรณ์ดี เขาคือกองหลังที่แข็งแกร่งคนนึงเลยล่ะ




8. อันแดร์สัน (กองกลาง)

      มิดฟิลด์เลือดแซมบ้า เป็นนักเตะปีศาจแดงที่ฟอร์มกระท่อนกระแท่นที่สุด ตอนเขาอยู่ปอร์โต้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพชรเม็ดงามของลีกโปรตุเกสเลยทีเดียว แม้เขาจะเล่นด้วยความทุ่มเท พักหลังๆเขาทำประตูได้บ่อยขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้เขายังไม่สามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว คือการสร้างสรรค์เกม การผ่านบอล ที่มักจะติดขัดอยู่เสมอ ถึงยังไงเขาก็ยังเป็นอะไหล่ที่ดีของทีม พอจะหมุนเวียนลงมาทดแทนในแดนกลางได้ เราก็หวังว่าเขาจะเค้นฟอร์มเก่งออกมาซะที ก่อนที่จะสายเกินไป จนเขาต้องอาจระเห็ดออกจากโรงละครแห่งความฝัน ในเร็ววันนี้ก็เป็นได้




10. เวย์น รูนีย์ (กองหน้า)

        เป็นที่แน่นอนแล้วว่า หัวหอกสุกรโลกันต์จะอยู่ค้าแข้งกับอสูรแดงต่อไป หลังจากง๊องแง๊ง งอนตุ๊บป่องอยู่นาน ล่าสุดสโมสรกำลังยื่นสัญญาใหม่ให้เขาพิจารณา ซึ่งเดวิด มอยส์ ย้ำเสมอว่า "รูนีย์" ไม่ได้มีไว้ขาย ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบแทนความเชื่อมั่นนี้โดยการโชว์ฟอร์มเทพ ทุ่มเทสุดยอดในเกมที่เปิดบ้านเสมอกับเชลซี ที่ผ่านมา แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เขาได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ที่บริเวณหน้าผาก ตอนนี้เราได้แต่รอการคัมแบ็คของเขาให้กลับมาทันเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ที่จะถึงนี้ แต่ทว่าเขากลับมาลงเป็น 11 ตัวจริงในเกมที่ชนะคริสตัล พาเลซ 2-0 ได้อย่างอย่างเซอร์ไพรซ์ แถมยิงฟรีคิกสุดสวยได้อีกต่างหาก เขาเป็นหนึ่งในหัวใจของทีม ไม่ว่าจะเป็นบทบาทกองหน้าหรือตัวฟรีก็ตาม ซึ่งยามที่เขาอยู่ในสนาม เขาจะทำได้ดีและมีความมุ่งมั่นอยู่เสมอ




11. ไรอัน กิ๊กส์ (กองกลาง)

       ปีกพ่อมดชาวเวลส์ ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว เขาเป็นคนเดียวที่ยังสามารถยืนหยัดเล่นอยู่ในลีกสูงสุด ตั้งแต่ฤดูกาล 92-93 เป็นต้นมา โดยยิงประตูได้ทุกๆซีซั่น เขารับใช้ยูไนเต็ดเป็นทีมแรกและทีมเดียวเป็นเวลากว่า 2ทศวรรษ ด้วยวัยใกล้เข้าหลักสี่เกือบถึงดอนเมือง มาตรฐานการเล่นของเขา ไม่มีทีท่าจะตกลงเลยแม้แต่น้อย และในซีซั่นนี้ เขาได้รับบทบาทใหม่คือ ผู้เล่น+สต๊าฟโค้ช เป็นการปูทางในอาชีพหลังจากเขาเลิกเล่น ซึ่งนี่อาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขาก็ได้ อย่างน้อยๆปีนี้เขาจะยังคงถ่ายทอดประสบการณ์ช่วยประคับประคองดาวรุ่งเลือดใหม่ ให้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ




12. คริส สมอลลิ่ง (กองหลัง)

       ปราการหลังดาวโรจน์ ผู้มีความสูงมากที่สุดในทีม สามารถเล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลาง และแบ็คขวา สมอลลิ่งต้องประสบปัญหาบาดเจ็บบ่อยครั้ง เช่นเดียวกับกองหลังรายอื่น ทำให้ยังเค้นประสิทธิภาพออกมาได้ไม่เต็มที่นัก เขาแข็งแกร่ง แต่มักจะมีปัญหาด้านการอ่านเกม ที่ค่อนข้างช้า ในจุดนี้เขาต้องปรับจูนเรียนรู้จากรุ่นพี่ในทีมให้มากขึ้น หากทำได้ แนวรับของอสูรแดง จะมีความน่าเกรงขามมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก




13. อันเดอร์ส ลินเดการ์ด (ผู้รักษาประตู)

       ผู้รักษาประตูมือสองชาวเดนมาร์ค สองซีซั่นก่อนที่ เด เคอา ฟอร์มไม่เข้าที่ เขาได้รับหน้าที่นี้แทนและทำได้ดีกว่า จนยึดมือหนึ่งอยู่ช่วงนึง พอมาในซีซั่นที่แล้วเป็น เด เคอา ที่เรียกฟอร์มเก่งกลับมาจนยึดมือหนึ่งคืนไปได้ จนทำให้โอกาสลงเล่นของลินเดการ์ดเริ่มมีน้อยลง ทำให้เขาอาจสูญเสียความมั่นใจไปบ้าง แต่โดยรวมเขาก็ยังเป็นมือสองที่พอจะฝากผีฝากไข้ได้ ส่วนเขาจะแฮปปี้กับสถานการณ์แบบนี้รึเปล่า เราต้องคอยเอาใจช่วย




14. ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ (กองหน้า)

        เขาเป็นเหมือน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ยามเมื่อได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง จะยิงได้เป็นกอบเป็นกำอยู่เสมอ เขายังมีความสุขดีกับทีม ยิงประตูสำคัญช่วยทีมอยู่เสมอ ปลายซีซั่นก่อนเราได้เห็นพัฒนาการบางอย่างของเขา คือการครองบอล และการจ่ายบอลเขาทำได้ดีขึ้นมาก แม้เขาจะเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง นับตั้งแต่การมาของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่เขาก็ไม่ปริปากบ่นสักครั้งยังคงก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด เขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ ซึ่งสุดท้ายแล้วเขายังเป็นผู้เล่นที่สำคัญคนนึงของทีม และฤดูกาลนี้ "ชิชาริโต้" จะทำประโยชน์ให้ทีมได้อย่างมากเช่นเคย




15. เันมานย่า วิดิช (กองหลัง)

      กัปตันทีมคนเหล็ก คือหัวใจในแนวรับของทีมอย่างแท้จริง แม้จะมีอาการบาดเจ็บอยู่เป็นระยะ แต่ตอนนี้เขาฟิตสมบูรณ์แล้ว เมื่อเขาจับคู่กับริโอ เฟอร์ดินานด์ จะเป็นเรื่องที่น่าหนักใจมากของฝั่งตรงข้าม ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน เข้าบอลถึงลูกถึงคน เล่นลูกกลางอากาศได้อย่างไม่บกพร่อง ทำให้เขาเคยตกเป็นเป้าของยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปทั้งในสเปนและอิตาลี แต่จนแล้วจนรอด เขายังคงภักดีอยู่กับสโมสรต่อไป และเราหวังว่าปีนี้เขาจะไม่บาดเจ็บอีก




16. ไมเคิ่ล คาร์ริค (กองกลาง)

      กองกลางจอมผ่านบอล ในซีซั่นก่อน เขามีสถิติอันน่าทึ่ง นั่นคือเป็นผู้เล่นที่มีการผ่านบอลขึ้นหน้าสำเร็จมากที่สุดในยุโรป รวมทั้งสิ้น 1,534 ครั้ง เหนือกว่าทั้ง ชาบี เอร์นานเดซ และ อันเดรีย   ปิร์โล่ สองยอดมิดฟิลด์ระดับโลกเสียอีก เขาถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในแดนกลาง ช่วยให้ยูไนเต็ดผงาดคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 มาครองได้ เขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในอาชีพ เขาเล่นบอลด้วยมันสมอง และหวังว่าในปีนี้เขาจะรักษาฟอร์มเก่งไว้ได้อีก




17. หลุยส์ นานี่ (ปีกขวา)

    ฤดูกาลก่อน ถือเป็นฝันร้ายของปีกชาวโปรตุกีสอย่างแท้จริง เขามีอาการเจ็บในช่วงต้นซีซั่น พอกลับมาลงเล่นได้ไม่เท่าไรก็ต้องเจอกับความซวยอีกครั้ง เมื่อเขาถูกไล่ออกแบบค้านสายตาชาวโลก ที่พบกับเรอัล มาดริด ในเกมยุโรป รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง หลังจากนั้นท้ายฤดูกาล เขาได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ถือเป็นปีที่ไม่น่าจดจำของนานี่เอาเสียเลย อย่างไรก็ดีขณะนี้เขาฟิตสมบูรณ์กลับมาแล้ว แถมยังต่อสัญญายาวอยู่โยงไปอีก 5 ปี ถือเป็นเรื่องน่ายินดี หวังว่าปีนี้โชคจะเข้าข้างเขาบ้าง




18. แอชลีย์ ยัง (ปีกซ้าย)

        ตั้งแต่ย้ายมาจาก แอสตัน วิลล่า ปีกรายนี้ยังโชว์ฟอร์มเก่งไม่ออกเลย ฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาน่าจะเป็นเกมที่ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่มอาร์เซน่อล ยับเยินถึง 8-2 ซึ่งเขายิง 2 ประตูสุดสวยในเกมนั้น นอกนั้นเขาก็ยังไม่แสดงความโดดเด่นอะไรอีกเลย ซ้ำยังเจ็บบ่อยอีกด้วย ทำให้ซีซั่นก่อน เขาแทบไม่มีส่วนร่วมอะไรมากนัก พอมาซีซั่นนี้เขากลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง โดยนัดล่าสุดที่ทีมบุกไปแพ้  ลิเวอร์พูล เขาออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรก แต่ก็ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง หากเขายังรีดฟอร์มเก่งออกมาไม่ได้ในเร็ววัน สงสัยต้องมีอันเก็บกระเป๋าออกจากทีมในไม่ช้านี้




19. แดนนี่ เวลเบ็ค (กองหน้า)

        กองหน้าผู้เป็นเด็กปั้นของสโมสร เมื่อปีก่อนเขาก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่อย่างเต็มตัว ผลงานโดยรวมถือว่าไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่เขาทำประตูในลีกแค่ลูกเดียว นี่คือสิ่งที่เวลเบ็คต้องปรับปรุง แล้วเขาก็ไม่ทำให้เรารอนาน เขาทำประตูได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นมาจนถึงเปิดฤดูกาล โดยเขายิงในลีกไปแล้ว 2 ประตูจาก 3 เกม แถมยังไประเบิดฟอร์มต่อเนื่องในทีมชาติ ด้วยการเหมา2 ประตู ช่วยให้อังกฤษ ถล่มมอลโดว่า ไป 4-0 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เขามีทั้งความเร็ว ไปกับบอลได้ดี และที่สำคัญ การที่เขายิงประตูได้ต่อเนื่อง ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น และเราหวังว่าเขาจะสามารถรักษาฟอร์มแบบนี้ไว้ให้นานที่สุด




20. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (กองหน้า)

        เมื่อซีซั่นก่อน เพชรฆาตดัตช์แมน เป็นดาวยิงสูงสุดของทีมและดาวยิงสูงสุดของพรีเมียร์ลีก  ที่ 26 ประตู ถือเป็นกุญแจดอกสำคัญที่พาปีศาจแดงคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จนมาปีนี้เขายังคงรักษาฟอร์มไว้ได้ โดยยิงไป 2 ประตูจาก 3 เกม ไม่นานมานี้กองหน้าวัย 30 ปี ออกมาบอกว่าเขายังอยากเล่นฟุตบอลไปอีก 10 ปี ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากไรอัน กิ๊กส์ หากเขายังรักษาร่างกาย และมาตรฐานการเล่นอย่างสม่ำเสมอ เชื่อได้เลยว่าเขาจะทำได้อย่างที่พูดแน่นอน และเราหวังว่าปีนี้เขาจะยิงระเบิดเถิดเทิง ให้ยิ่งกว่าปีก่อน




22. ฟาบิโอ ดา ซิลวา (แบ็คขวา/ซ้าย)

      แฝดผู้พี่ของราฟาเอล เพิ่งกลับมาอยู่กับทีมอีกครั้ง หลังจากซีซั่นก่อนถูกคิวพีอาร์ยืมตัวไปใช้งาน แม้จะไม่สามารถช่วยให้ทหารเสือราชินี รอดตกชั้น แต่ผลงานโดยรวมเขาทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว จึงยังมีอนาคตกับทีมต่อไป เพียงแต่ยังเป็นแค่อะไหล่สำรอง เนื่องจากนักเตะในตำแหน่งนี้ น้องชายของเขาทำได้ดีกว่าอยู่แล้ว และถึงแม้จะไปเล่นแบ็คซ้ายได้แต่ก้อมีทั้งเอฟร่าและบุตต์เนอร์ ขวางทางอยู่ เขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อตำแหน่งภายในทีม เราก็ต้องคอยเอาใจช่วยต่อไป




23. ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ (กองกลาง)

        มิดฟิลด์รูปหล่อ ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เต็มตัวเมื่อ 2 ซีซั่นก่อน แต่เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาไม่มีส่วนร่วมกับทีมมากนัก เขาได้ลงเล่นมากขึ้นในซีซั่นที่แล้ว และทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง เขาเล่นฟุตบอลง่ายๆ ได้มาจ่ายไป ไม่หวงบอล หาพื้นที่ว่างได้ดี แต่ฟอร์มเขาก็ยังไม่คงเส้นคงวา ยังต้องพัฒนาขึ้นอีก ส่วนในซีซั่นนี้เขากลายเป็นตัวหลักในแดนกลางคู่กับ ไมเคิ่ล คาร์ริคภายใต้ยุคเดวิด มอยส์ หากพัฒนาฟอร์มให้คงเส้นคงวามากกว่าที่เป็นอยู่ วันนึงเขาจะเป็นยอดมิดฟิลด์ที่ทีมขาดไม่ได้




24. ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ (กองกลาง)

        อดีตลูกรักของเฟอร์กี้ ที่ตอนนี้ยังไม่หายจากอาการป่วยเรื้อรังที่ลำไส้ เขามีปัญหามาตลอด 2 ปีหลัง แทบจะไม่ได้ลงช่วยทีมเลย ต้องคอยลุ้นกันว่ามิดฟิลด์ผึ้งงานรายนี้ จะกลับมาช่วยทีมในซีซั่นนี้ได้เมื่อไร เราต่างภาวนาให้เขาหายขาดเสียที อย่าให้ถึงขนาดต้องเลิกเล่นฟุตบอลก่อนวัยอันควร ถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันคงเป็นเรื่องน่าเศร้าไม่น้อย แต่ล่าสุดเทพเฟล็ตช์ กลับมาซ้อมกับทีมได้แล้ว นับเป็นข่าวดีกับทีมอย่างยิ่ง




25. อันโตนิโอ วาเลนเซีย (ปีกขวา)

       ฤดูกาลที่ผ่านมา ถือว่าเป็นฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดของปีกรถด่วน หลังจากเปลี่ยนมาสวมเสื้อเบอร์ 7 ฟอร์มเก่งของเขาก็หายไปดื้อๆ ทั้งการเปิดบอล การตัดสินใจต่างๆในเกม ทุกอย่างดูจะติดขัดไปหมด ซึ่งคงมาจากความกดดันในการสวมเสื้อหมายเลขที่เป็นตำนานแบบนี้ เขาจึงไม่ขอแบกรับมันอีกต่อไป โดยซีซั่นนี้เขากลับมาสวมเบอร์ 25 อีกครั้ง และดูเหมือนว่าเขาจะเอ็นจอยในการเล่นมากขึ้น เริ่มกลับไปเป็ดวาเลนเซียคนเดิม ทุกอย่างมันมาจากสภาพจิตใจของของ หากเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจแล้ว ใครหน้าไหนก็หยุดรถด่วนขบวนนี้ไม่อยู่




26. ชินจิ คากาวะ (กองกลาง)

      เข้าสู่ฤดูกาลที่ 2 ของ เพลย์เมคเกอร์เลือดซามูไร ซึ่งฤดูกาลก่อนผลงานของเขายังไม่เป็นที่ประทับใจนัก แม้จะทำ 6 ประตูในลีก แถมยังทำแฮททริคได้อีกต่างหาก แต่นั่นก็เป็นฟอร์มบางนัดเท่านั้น เขาต้องอาศัยการปรับตัวอีกสักระยะ ต้องให้เวลาเขาพิสูจน์ตัวเอง ศักยภาพในตัวเขานั้นมีมากกว่าที่เราเห็น เขาพร้อมจะต่อสู้และทำงานให้หนักกว่าเดิม เพื่อจะได้สร้างผลงานให้โดดเด่นเหมือนกับที่เขาเคยทำได้สมัยอยู่กับกับดอร์ทมุนด์ โดยมีฤดูกาลนี้เป็นตัวตัดสิน ว่าเขาดีพอจะเล่นให้ยูไนเต็ดรึเปล่า ซึ่งถ้าเขาทำได้ เกมรุกของปีศาจแดงฤดูกาลนี้จะมีพิษสงอย่างมากทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ เดวิด มอยส์ ว่าจะไห้โอกาสเขามากน้อยแค่ไหน




28. อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ (แบ็คซ้าย)

      แบ็คซ้ายจอมบุกรายนี้ เป็นอะไหล่ชั้นดีของ ปาทริซ เอฟร่า เนื่องจากมีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกัน เขาสามารถไปกับบอลได้ดี มีเท้าซ้ายอันทรงพลัง ลุยไปข้างหน้าลูกเดียว แต่เขายังต้องเรียนรู้อีกสักระยะ หากจะเป็นแบ็คที่สมบูรณ์แบบ ฤดูกาลก่อนเขาทำได้ค่อนข้างดี และมาปีนี้เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเห็นพัฒนาการที่ดีของเขามากขึ้นกว่าเดิม




29. วิลฟรีด ซาฮา (ปีกขวา/ซ้าย)

    ซาฮา เป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่ทีมซื้อมาในยุคของเฟอร์กี้ และถือเป็นเพชรเม็ดงามของวงการฟุตบอลอังกฤษ ในซีซั่นก่อนเขาทำผลงานกับคริสตัล พาเลซ ได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถ พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จในการเตะเพลย์ออฟ เขาร่วมเดินทางไปกับทีมในช่วงปรีซีซั่น และทำผลงานเป็นที่น่าพอใจ จนเดวิด มอยส์ ต้องออกมาชมเลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้เมื่อยามอยู่ในสนาม เขาดูเยือกเย็นผิดกับวัยเหลือเกิน ในซีซั่นนี้หากเขาเรียนรู้จากรุ่นพี่ภายในทีม และขยันซ้อมให้หนัก เขาจะกลายเป็นปีกตัวหลักของทีมได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งตอนนี้ เราอยากเห็นเขาลงไปวาดลวดลายในสนามเต็มแก่แล้ว




31. มารูยาน เฟลไลนี่ (กองกลาง)

        มิดฟิลด์หัวฟู เป็นผู้เล่นคนเดียวที่ย้ายมาร่วมทีมในนาทีสุดท้าย ก่อนปิดตลาดซื้อขาย และยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่ เดวิด มอยส์ ซื้อมาร่วมทีม เฟลไลนี่ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรในความสามารถของเขาอีกแล้ว เขาเล่นในอังกฤษมา 5 ปีกับเอฟเวอร์ตัน มอยส์ย่อมรู้ดี ว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง เขาเล่นบอลได้ดีทั้งบนพื้นและลูกกลางอากาศ แถมมีเทคนิคอันแพรวพราว แข็งแกร่งครองบอลได้ดี คู่ต่อสู้แย่งบอลได้ยาก ที่เหลือก็คือเขาจะสามารถเล่นได้เข้าขากับขุนพลอสูรแดงรายอื่นๆได้หรือไม่ ถ้าทำได้เหมือนสมัยค้าแข้งกับท็อฟฟี่เมน เขาจะกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลอีกคนอย่างแน่นอน บรรดากองเชียร์คงจะซื้อวิกผมแอฟโฟรมาใส่กันทั้งสนาม คงเป็นภาพที่ชื่นมื่นน่าประทับใจไม่น้อย





44. อัดนัน ยานูซาจ


        ปีกดาวโรจน์วัย 18 ปี ชาวเบลเยี่ยมเชื้อสายอัลบาเนีย ถือเป็นเพชรเม็ดงามของปีศาจแดงอย่างแท้จริง เขาฉายแววเจิดจรัสเมื่อฤดูกาลก่อนในลีกสำรอง โดยการพาปีศาจแดงคว้าแชมป์ พ่วงด้วยตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร ฤดูกาลนี้เขาจะมีบทบาทในทีมชุดใหญ่อย่างแน่นอน หลังจากโชว์ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา โดยล่าสุดเขาได้ลงประเดิมสนามในเกมลีกเป็นครั้งแรกโดยเป็นตัวสำรอง ที่ยูไนเต็ดเปิดบ้านเอาชนะคริสตัล พาเลซ ไป 2-0 ผลงานของเขานั้นเป็นที่น่าประทับใจอย่างมาก ได้รับคำชมจากทั้งผู้จัดการทีมและแฟนบอลทั่วโลก ด้วยศักยภาพที่มีเขาจะพัฒนาฝีเท้าได้อีกมาก นำไปสู่การเป็นนักเตะระดับโลกได้ไม่ยาก แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ยูไนเต็ด ต้องต่อสัญญาฉบับใหม่กับเขาได้แล้ว






                                                    Glory Glory Man United




- ผู้เล่นรายอื่นที่ไม่อยู่ในข่ายการเจาะลึก


- เจสซี่ ลินด์การ์ด , ไมเคิ่ล คีน และ กิลเยร์โม่ บาเรล่า
  อาจถูกทีมอื่นยืมตัวไปใช้งานก่อน

- นิค พาวเวลล์ ถูกวีแกนยืมตัว , แองเจโล่ เฮนริเกวซ ถูกซาราโกซ่ายืมตัว

- เบเบ้ และ เฟเดริโก้ มาเคด้า ส่อแววหมดอนาคตกับทีม

- เบน เอมอส ในซีซั่นนี้ ยังคงไม่ได้รับโอกาสลงเล่นในเกมลีกมากนัก

 




                                                                                     เรียบเรียงและสร้างสรรค์โดย  Muztong
                                                                                                    
                                                                                                    17 กันยายน 2013


Ads



Related Post