"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลัวเสริมทัพไม่สมราคาทีมมหาเศรษฐีรายใหม่ของศึกพรีเมียร์ชิพ ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าบอร์ดบริหารเปิดไฟเขียวทุ่มเงิน 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,375 ล้านบาท) ล่าตัว เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงสัญชาติโตโกของ อาร์เซน่อล ทีมแกร่งร่วมลีก มาเสริมแนวรุกในถิ่น ซิตี้ อ๊อฟ แมนเชสเตอร์ ให้เฉียบคมยิ่งขึ้น ทั้ง ๆ ที่จะเพิ่งคว้าตัว คาร์ลอส เตเบซ มาร่วมทัพหมาด ๆ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

            ตามรายงานของ "เดอะ ซันส์" แท็บลอยด์จอมแฉเมืองผู้ดีระบุว่า แมนฯซิตี้ ได้ทุ่มเงินกว่า 1,375 ล้านบาท ให้ทีมดังแห่งกรุงลอนดอนพิจารณาและมีกระแสตอบรับในแง่บวกจากทาง อาร์เซน่อล ที่มีแนวโน้มว่าจะยอมปล่อยตัว อเดบายอร์ มาสวมเสื้อ "เรือใบสีฟ้า" ด้วยสนนราคาที่สูงกว่าตอนที่ "ไอ้ปืนใหญ่" จ่ายให้ โมนาโก ในปี 2006 เกิน 8 เท่าตัว (อาร์เซน่อล ซื้อ บายอร์ จาก โมนาโก เพียง 3 ล้านปอนด์ / ประมาณ 165 ล้านบาท) โดย ซิตี้ ยื่นข้อเสนอให้ "ปริ๊นซ์ อ๊อฟ โตโก" 5 ปี พร้อมค่าเหนื่อยสูงถึง 1.3 แสนปอนด์ (ประมาณ 7.15 ล้านบาท) ต่อ สัปดาห์ ซึ่งหากการเจรจาผ่านฉลุย การย้ายทีมของ บายอร์ หนนี้จะมีมูลค่ารวมกว่า 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3.3 พันล้านบาท) เลยทีเดียว

            ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวเรื่องการซื้อ อเดบายอร์ มาร่วมทีมของฝั่ง แมนฯซิตี้ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายหลังที่ มาร์ค ฮิวจ์ส ถอนตัวจากการไล่ล่า ซามูเอล เอโต้ ของ บาร์เซโลน่า และหากมีการโยกย้ายเกิดขึ้นจริง นั่นหมายถึงกุนซือชาวเวลส์ใช้เงินเสริมแกร่งทีมในช่วงปิดฤดูกาลนี้ไปแล้วมหาศาล ต่อเนื่องจากการซื้อ แกเร็ธ แบร์รี่ (แอสตัน วิลล่า, 12 ล้านปอนด์ / ราว 660 ล้านบาท) , โรเก้ ซานตา ครูซ (แบล็คเบิร์น, 18 ล้านปอนด์ / ราว 990 ล้านบาท) รวมถึงที่ไม่เปิดเผยค่าใช้จ่ายอย่าง สจ๊วร์ต เทย์เลอร์กับ นิลส์ แซนเดอร์ และนับเป็นการตัดหน้า เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังเลี่ยน ที่ตกเป็นข่าวว่าตามจีบ อเดบายอร์ มาแล้วพักใหญ่อีกด้วย
 
            ทางด้านตัวแปรสำคัญที่ผลักดันให้ อาร์เซน่อล จะยอมปล่อยตัวหัวหอกทีมชาติโตโกในครั้งนี้ก็คือ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือเฟร้นช์แมน ต้องการเงินทุนมาใช้ในการดึงตัว มารูยาน ชามัคห์ ศูนย์หน้าตัวเก่งชาวโมร็อกโกของ บอร์กโดซ์ ทีมแชมป์ลีก เอิง สมัยล่าสุด มาเสริมแนวรุก กอปรกับการปล่อยตัว อเดบายอร์ ก็น่าจะได้รับการสนับสนุนจากกองเชียร์ "เดอะ กันเนอร์ส" เป็นอย่างดี เพราะสัมพันธภาพระหว่างแฟนบอลกับเพชฌฆาตโตโกนั้นแตกหักกันมาแล้วพักใหญ่นั่นเอง