ไม่เพียงเฉพาะแค่เหตุบ้านการณ์เมืองกำลังวุ่นวี่วุ่นวาย เพราะ ในวงการลูกหนังโลก ก็ตกอยู่ในภาวะผ่าทางตันไม่ได้เสียทีเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของการย้ายทีมของบรรดานักเตะแข้งทองทั้งหลาย ที่ต่างคาราคาซังตกเป็นข่าวตามสื่อไม่เว้นแต่ละวัน จากวันแรกที่ทำให้แฟนคลับของเหล่านักเตะต๊กกะใจ แทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะกลัวเสียนักเตะที่รัก แต่ไปๆ มาๆ เรื่องราวชักยืดเยื้อ ไม่ว่าจะต้นสังกัดขัดใจ หรือตัวนักเตะเองเรื่องมากมากเรื่อง จนทำให้หลายคนคงรู้สึกอ้วก เอือม และเอียน กับข่าวพวกนี้เสียแล้ว ซึ่งนักเตะที่อยู่ในข่ายน่าเบื่อหน่าย ก็คงไม่พ้นเจ้าพวกเหล่านี้

        นำโด่งความน่าเบื่อมาเป็นอันดับ 1 ก็คงต้องเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นกน้อยในกรุงทองของทีม "ปีศาจแดง" ที่ชักทำตัวไม่น่ารักขึ้นทุกวัน เพราะหลังตกเป็นข่าวว่าเจ้าตัวเป็นที่หมายปองของ เรอัล มาดริด แทนที่จะเจ้าโด้ จะพยายามออกมาให้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตตัวเอง แต่พี่แกก็เล่นเตะถ่วงเวลาไปมา แล้วเป็นไง ตอนนี้ "เจ็ทโด้" ก็ยังไม่เคยออกมาปริปากซักแอ่ะ แถมเมื่อเร็วๆ นี้ ก็เพิ่งแอบชิ่งไปผ่าตัดข้อเท้ายื้อเวลาออกไปได้อีกเป็นเดือน ปล่อยให้ทางต้นสังกัดของนักเตะ ต้องออกมาประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่า "เจ็ทโด้" ไม่ได้มีไว้ขาย ๆ  และอีกฝ่ายดื้อรั้นจะเอา จะเอา ให้ได้ เหมือนเด็กอย่างได้ขนม ต่อไปอีกซักพัก....เฮ้อ รัก สาม เศร้า เราสามคน แท้ ๆ ดูแล้ว ก็คงจะมีแต่ โรนัลโด้ เท่านั้น ที่จะเป็นผู้ให้คำตอบชีวิตของตัวเองได้ดีที่สุดกว่าใคร แต่ไม่ว่าอย่างไร แกก็ได้ขโมยความเชื่อใจและความศรัทธาของแฟนผีไปจนหมดสิ้นแล้ว

        รายต่อมาอนาคตค้าแข้งก็ค้างๆ คาๆ ไม่แพ้กัน นั่นคือ โรนัลดินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิล ที่กำลังเมียงมองหาอู่ข้าวอู่น้ำแห่งใหม่ให้กับตัวเอง หลังตกเป็นข่าวย้ายทีมมาตลอดซีซั่นที่แล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ลงเอยกับที่ไหนซักแห่งเสียที ขนาดมีสโมสรยักษ์ใหญ่ ทั้ง เอซี มิลาน, เชลซี และที่เนียนมากับเขาอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามจีบอยู่เป็นนิต ก็ตามเถอะ แต่พี่แกก็ยังดูสบายใจเฉิ่ม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  สงสัยคงหวังให้ บาร์ซ่า กลับใจ เห็นตัวเองอยู่ในสายตาอีกครั้ง แต่เฮียแก คงหารู้มั้งไม่ว่า ทางต้นสังกัดแคว้นกาตาลัน อยากจะขับแกออกจากทีมให้เร็วที่สุดจะตายอยู่แล้ว เพราะอยากได้เงินมาเป็นทุนคว้านักเตะสายเลือดใหม่มาสู่ทีม แต่จะว่าน้อง "เหยิน" ว่าเอ้อระเหยลอยชายไปเสียหมดก็คงไม่ได้ เพราะแกก็คงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตค้าแข้งในวัย 29 ปีของตนเอง งั้นก็ปล่อยให้ "คนหล่อเค้าเลือกได้ไปล่ะกัน"

        นี่ก็อีกรายที่ลายเริ่มออก แม้ไม่หล่อแต่ก็เลือกได้ สำหรับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกผิวหมึกของ อาร์เซน่อล ที่ตอนแรกบอกว่ารักปืนปานจะแหกตู๊ดดม แต่ไปๆ มาๆ พอเห็นคนอื่น เริ่มเก็บกระเป๋าออกจากทีมเพื่อไปร่วมทีมสโมสรที่บิ๊กเนมกว่า ก็เกิดกิเลศตัณหาเข้าครอบงำบ้าง ดิ้นอยากย้ายไปกับเค้าด้วย แต่พี่แกหัวหมอไม่น้อย เพราะกะใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส ด้วยการเสนอตัวว่า จะยอมพลีกายไปให้กับทีมอื่นเชยชม เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือเจือจุนสโมสร ที่มีหนี้ตัวแดงบาน จากการคิดการใหญ่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน โดยมี ทั้ง เอซี มิลาน และ บาร์เซโลน่า รอสอยตัวอย่างใจจดใจจ่อ ฟังแล้วดูเป็นคน กตัญญู๊ กตัญญู แต่ก็ดูเหมือนว่าจะใช้ไม่ได้ผลกับ อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือชาวน้ำหอมที่ย้ำชัดว่าจะไม่มีทางปล่อยดาวยิงโตโกรายนี้ออกจากอ้อมอกอันเหี่ยวๆ ไปแน่ หลังจากที่ทีมต้องเสีย มาติเยอ ฟลามินี่ และที่จ่อไปอีกรายอย่าง อเล็กซานเดอร์ คเล็บ ไปก่อนหน้านี้ จึงทำให้สถานการณ์ของบายอร์ยังคงยื้อยุดฉุดกระชากกันต่อไป

        ต่อมา เกี่ยวกับข้องกับ แกเร็ธ แบร์รี่ ที่ดิ้นๆๆ อยากย้ายไปสวมเสื้อ "เดอะค็อบส์" จนตัวสั่นสะท้าน แม้ว่าจะได้รับไฟเขียวจากต้นสังกัด แอสตัน วิลล่า อย่างเป็นทางการแล้วก็เหอะ แต่ก็ยังไปไหนไม่ได้เสียที ทั้งที่อุตส่าห์สีเสื้อหงส์รออยู่แล้วเชียว ทั้งนี้ ก็เนื่องมาจาก ลิเวอร์พูล ดันป๊อดไม่กล้าทุ่มค่าตัวตามที่ วิลล่า ได้เรียกร้องไป ทำให้คนที่อยากย้ายมากก็เจ็บมากอย่าง แบร์รี่ ต้องนั่งรอเพลงรอพร้อมซดเหล้าขาวแกล้มไข่มดแดงอยู่ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ปลอบใจไปพลางๆ ก่อน ส่วนแฟนบอล วิลล่า ก็คงคิดว่า ถ้าจะย้ายก็ย้ายไปให้ได้นะโว้ย แต่ถ้าไม่สำเร็จข้าจะหัวเราะให้ฟันหลุดเลย ดังนั้น สถานการณ์ที่ยังผ่าทางตันไม่ได้นี้ คงต้องรอแต่เพียง ลิเวอร์พูล ที่จะกล้าเอาราชรถมาเกยให้แบร์รี่ ออกจากถิ่น วิลล่า ปาร์ค ได้เมื่อไหร่ และถ้าไม่ทันกำหนดตลาดซื้อขายทำการ มีหวัง ดาวเตะทีมชาติอังกฤษผู้นี้ คงได้เป็น น้องหมาหัวเน่า แน่ๆ เลย

        เช่นเดียวกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จอมทัพของ เชลซี ที่บอกปัดต่อสัญญากับต้นสังกัดมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่สัญญาของตัวเองในถิ่น สแตมฟอร์ บริดจ์ ก็จ่อจะหมดลงทุกทีๆ รายนี้ มี อินเตอร์ มิลาน นำโดย โช่เซ มูรินโญ่ อดีตเทรนเนอร์คู่ใจ ที่เตรียมเดินเกียร์หน้าคว้าตัวเขามาร่วมทีม แต่ดูเหมือนว่า เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือคนใหม่ของ "สิงห์บูลส์" ก็อยากจะเก็บแลมพาร์ดไว้ในการทำทีมของเขาต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการที่ทีมไม่ยอมทุ่มเพิ่มค่าเหนื่อยให้เฮียแหลมแก ตามคำบัญชาของเบื้องบน โรมัน ฮับบราโมวิช เจ้าของสโมสร ก็เลยไม่รู้ว่า เรื่องราวย้ายทีมของ แลมพาร์ด จะลงเอยในแบบไหนต่อไป แต่ดูแล้ว เฮียแกมีเกณฑ์เดินทางไกลไม่น้อยเช่นกัน

        ส่วนนี่ ก็ได้รับไฟเขียวทั้งจาก กุนซือ ดิ๊ก อั๊กโวคาท และต้นสังกัด เซนิต เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ถึงขั้นยอมให้พักแข่งเพื่อทบทวนอนาคตของตัวเอง สำหรับในรายของ อังเดร อาร์ชาวิน เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติรัสเซีย ที่แจ้งเกิดได้อย่างสวยหรูในศึกยูโร 2008 ที่ ออสเตรีย และ สวิตเซอร์แลนด์ แถมยังมีทีมดังๆ รุมจีบกันเพียบมากมาย โดยเฉพาะ บาร์เซโลน่า และ เชลซี แต่ก็ดันติดปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ซะได้ เพราะทางต้นสังกัดนักเตะตั้งค่าหัวไว้แบบกะเลี้ยงทีมได้ตลอดทั้งปี ขณะที่ บาร์ซ่า กับ "สิงบูลส์" คิดว่า ค่าตัวของนักเตะรัสเซีย ไม่น่าจะสูงถึงขนาดนั้น เรื่องราวการย้ายทีมก็เลยยังหาข้อสรุปกันไม่ได้ และคาเติ่งอยู่ตอนนี้อีกคน

         มาอีกรายที่เนื้อหอมทีมยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ตอมกันให้หึ่ง ทั้งเชลซี, อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล นั่นก็คือ ดาบิด บีย่า กองหน้าทีมชาติสเปน แม้เจ้าตัวจะออกมายืนยัน นั่งยัน นอนยัน หนักแน่นว่าจะอยู่ร่วมหัวจมท้ายกับต้นสังกัด บาเลนเซีย ในฤดูกาลหน้า แม้ว่า ทีมจะประสบปัญหาการคลังหรือผลงานไม่เข้าตาจนอดไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตามที แต่ก็ไม่นำพาให้ทีมเหล่านั้นเลิกล้มความตั้งใจ แถมยังเดินเกียร์หน้าจับมือกับสำนักเต้าข่าวนานาชาติออกมาเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมของ หัวหอกดาวซัลโวจากศึกยูโร 2008 อย่างต่อเนื่อง เผื่อหวังว่าซักวัน บีย่า คงจะเห็นความตั้งใจของพวกเขา และถือคติที่ว่า น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับจิตใจคน ที่แปรเปลี่ยนทุกเสียววินาทีอยู่แล้ว....ก็หวังว่า  บีย่า คงจะไม่ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง และทำให้เรื่องราวนี้ "หักมุม" ในตอนท้ายก็แล้วกัน

ปล.ข้อสังเกต พวกที่อยากย้ายมักไม่ได้ย้าย ขณะที่พวกที่ปากบอกไม่อยากย้ายก็ได้ไปทุกที....จบ