แฟร้งค์ โลวี่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลีย หรือ เอฟเอฟเอ ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า พวกเขาต้องการยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย พร้อมติง หากทวีป ยุโรป จะได้รับหน้าที่เป็นหน้าเสื่อในปีดังกล่าว

        โลวี่ กล่าวก่อนเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือกที่ ขุนพล "ซอคเกอร์รูส์"จะลงเตะกับ อิรัก ในวันอาทิตย์นี้ว่า "แน่นอน เรามีความประสงค์ที่จะเป็นเจ้าภาพในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย cแม้ ผมรู้มาว่า มีหลายคนที่สนับสนุนความคิดที่จะนำฟุตบอลโลก ไปจัดที่ ยุโรป อีกครั้ง ในปี 2018  แต่ ความจริงที่ผมอยากจะบอก ก็คือ ฟุตบอล เป็นเกมของคนทั่วโลก"

        "ไม่ต้องสงสัยว่า ยุโรป มีการเติบโตและพัฒนาการในเกมลูกหนังอย่างมาก ในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา แต่ อนาคตของเกมฟุตบอล จะเดินหน้าไปอยู่ใน "โลกใหม่" ซึ่งเป็นภูมิภาคซีกโลก ที่กำลังเจริญก้าวหน้าและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง อย่างเช่น ทวีปเอเชีย" ประธานเลือดออสซี่ กล่าวอย่างหนักแน่น

         พร้อมกันนั้น โลวี่ ยังกล่าวอีกว่า หาก ออสเตรเลีย ไม่ประสบความสำเร็จ ในการยื่นเรื่องขอเป็นจัดภาพฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ในปี 2018 ก็มีความเป็นไปได้ที่ พวกเขาจะยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพมหกรรมลูกหนังแห่งมวลมนุษยชาติทั่วโลก อีกครั้ง ในปี 2022

         สำหรับ ชาติจากทวีปยุโรป ที่เสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ในปี 2018 นั้น ได้แก่ อังกฤษ, สเปน, รัสเซีย และ ฮอลแลนด์ กับ เบลเยี่ยมที่จับมือเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ขณะที่ ชาติจากทวีปเอเชีย ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น และ กาตาร์ ส่วนทวีปอเมริกาเหนือ ก็มี สหรัฐอเมริกา และ เม็กซิโก ที่ขอมีเอี่ยวด้วยคน

         อาจกล่าวได้ว่า นับตั้งแต่ ได้มีริเริ่มการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งแรก เมื่อปี 1930 นั้น ทวีปเอเชีย เคยรับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพเพียงครั้งเดียว ในปี 2000 ที่ ประเทศ เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น ซึ่งจับมือเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ขณะที่ ทวีปยุโรป เคยรับหน้าเสื่อเจ้าภาพมาแล้วถึง 10 ครั้ง รวมถึงครั้งล่าสุด เมื่อปี 2006 ที่ประเทศ เยอรมัน

         ทั้งนี้ ฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย จะโยกย้ายไปจัดที่ ทวีปแอฟริกาเป็นครั้งแรก ที่ประเทศ แอฟริกาใต้ ขณะที่ในครั้งต่อไปในปี 2014 นั้น เกมการแข่งขันก็จะย้ายไปจัดที่ ทวีปอเมริกาใต้ โดยมี บราซิล ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ จากการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว