มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน เป็นนักเตะทีมชาติอิตาลี ที่ได้รับการยอมรับและถูกจับตามองในระหว่างศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายที่ประเทศบราซิล

     แม้ว่าเขาจะลงเล่นรับใช้ทีมชาติอิตาลี ในเกมกระชับมิตรกับไอร์แลนด์ ที่สนาม คราเวน ค๊อตเทจ ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มเพียงนัดเดียวเท่านั้น ทว่ากองหลัง โตริโน่ ก็ได้รับเลือกจากกุนซือ เชซาเร่ ปรันเดลลี่ เป็น 23 ขุนพลไปลุยฟุตบอลโลกและได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกนัดในรอบแบ่งกลุ่ม

      เกมนัดเปิดสนามรอบแบ่งกลุ่มที่เจอกับอังกฤษ มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นและสร้างปัญหาให้กับ เลย์ตัน เบนส์ แบ็กซ้ายของอังกฤษได้เป็นอย่างดีตอนที่โดนบุก

      จากฟอร์มส่วนตัวที่ดีทำให้เขาได้รับรางวัล "นักเตะยอดเยี่ยมของทีมชาติอิตาลีปี 2014" (Pallone Azzurro) ซึ่งเขารับรางวัลนี้เมื่อต้นปี 2015 ขณะที่ในนามทีมชาติดูเหมือนว่าเขาจะปักหลักเป็นขาประจำกับทีมได้แล้วในตำแหน่งแบ็กขวา

      ในระดับสโมสร เขาเริ่มต้นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับเอซี มิลาน โดยได้รับโอกาสในลงเล่นเป็นเกมแรกในศึก โคปปา อิตาเลีย เจอกับ เบรสชา ตอนอายุ 16 ปี อย่างไรก็ตามเจ้าตัวไม่สามารถทะลุขึ้นเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ "รอสโซเนรี่" ได้ ต่อมา ดาร์เมี่ยน ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ ปาโดว่า ใน เซเรีย บี แบบยืมตัวก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ ปาแลร์โม่ ในปี 2010

      แม้ว่า ดาร์เมี่ยน จะมีประสบการณ์ในเกมยุโรปในศึกยูโรป้าลีก ทว่าเขาตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้งด้วยการลงไปเล่นใน เซเรีย บี อีกครั้งกับ โตริโน่ ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงแรกหลังจากเจ้าตัวประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดฤดูกาลกับปาแลร์โม่

      ดาร์เมี่ยน สามารถพิสูจน์ตัวเองและยึดตำแหน่งตัวจริงกับทีม "กรานาต้า" เอาไว้ได้และช่วยให้ทีมกลับขึ้นมาเล่นในเซเรียอาได้สำเร็จในปีแรกที่เขาอยู่กับสโมสร หลังจากนั้นแข้งที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ใน เลนญาโน่ ก็ลงเล่นให้ โตริโน่ ใน 4 ฤดูกาลต่อมาไม่เคยต่ำกว่า 30 เกมเลย

      มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในฟูลแบ็กที่ดุดันที่สุดในยุโรป ความสามารถในการพาบอลขึ้นเกมของเขาเป็นประโยชน์อย่างมากซึ่งสัมพันธ์กับความฉลาดในการเล่นเกมรับของเขา

      ดาร์เมี่ยน ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ อันโตนิโอ คาบรินี่ กองหลังระดับตำนานของยูเวนตุส และทีมชาติอิตาลี การย้ายทีมของ เขาในครั้งนี้จะทำให้ ดาร์เมี่ยน กลายเป็นนักเตะอิตาเลี่ยนคนที่ 5 ในทีมชุดใหญ่ของแมนฯยูฯ ต่อจาก คาร์โล ซาร์โตรี่ (คนแรก), มัสซิโม่ ตาอิบี้, จูเซปเป้ รอสซี่ และ เฟเดริโก้ มาเคด้า รวมถึงเป็นนักเตะโตริโน่คนที่ 2 ที่ย้ายมาแมนฯยูฯต่อจาก เดนิส ลอว์ เมื่อปี 1962

สไตล์การเล่น

      แม้ว่า ดาร์เมี่ยน จะเริ่มต้นอาชีพด้วยตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แต่ในหลายปีหลังมานี้เขาโดดเด่นในบทบาทแบ็กจอมบุกทั้งซ้ายและขวาแม้ว่าเท้าที่ถนัดจะเป็นเท้าขวาก็ตาม เป็นที่รู้กันดีว่า ดาร์เมี่ยน มีดีทั้งเกมรุกและรับ, ปรับตัวเข้ากับแท็กติกได้ดี, มีความเร็วรวมถึงความแข็งแกร่ง ดาร์เมี่ยน มีเปอร์เซนต์การเข้าสกัดแล้วชนะสูงถึง 5.3 ครั้งต่อเกมมากที่สุดใน 5 ลีกหลักของยุโรป

-- เส้นทางอาชีพ --

ระดับเยาวชน 2001-09 : เอซี มิลาน

ระดับทีมชุดใหญ่
2006-09 มิลาน 4 นัด
2009-10 ปาโดว่า (ยืมตัว) 22 นัด, ยิงได้ 1 ประตู
2010-11 ปาแลร์โม่ 11 นัด
2011-15 โตริโน่ 133 นัด, ยิงได้ 3 ประตู
2015-... แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ระดับทีมชาติ
2006 อิตาลี ยู17, 7 นัด
2006 อิตาลี ยู18, 5 นัด
2007-08 อิตาลี ยู19, 11 นัด
2008-09 อิตาลี ยู20, 7 นัด
2009 อิตาลี ยู21, 1 นัด
2014-ปัจจุบัน อิตาลีชุดใหญ่, 13 นัด

-- เกียรติประวัติ --

ระดับสโมสร

มิลาน

- แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2006-07
- แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2007

-- เกียรติประวัติส่วนตัว --

- ทีม เซเรีย อา ยอดเยี่ยมฤดูกาล 2013/14
- นักเตะทีมชาติอิตาลียอดเยี่ยม 2014